หลังๆ มานี้ ต้องบอกเลยว่าอะไรที่มันดูย้อนยุค เก่าๆ หน่อยมักจะได้รับความนิยมกันอย่างเสมอ และแลดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเสียด้วย

ไม่ใช่เฉพาะในเรื่องของแฟชั่นกันเท่านั้น ในแง่ของการท่องเที่ยวก็มีเหมือนกัน อย่างตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) ที่อดีตจากหนองน้ำที่แวดล้อมไปด้วยป่ากก รกร้าง น้ำท่วมในฤดูฝน ปัจจุบันถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมต้นๆ ของจังหวัด

ที่มาที่ไปนั้น เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2550 พื้นที่สุดเขตเมืองพัทยา ก่อนเข้าเขตอำเภอสัตหีบ มีร้านอาหารเล็กๆ ชื่อร้าน "ราชาปูดอง" ปลูกสร้างเป็นเพิงเล็กๆ อยู่ริมหนองน้ำ ที่รกร้าง แต่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด และเป็นแหล่งทำมาหากินของคนในละแวก และพื้นที่ใกล้เคียง พอถึงฤดูฝน น้ำจะหลาก บริเวณนี้มักจะถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ต่อมาผู้บริหารตลาดน้ำฯ ในขณะนั้น เล็งเห็นว่าพื้นที่นี้ทำเล ดี ผู้คนสัญจรเยอะ ไปเมืองต่างๆ ในภาคตะวันออก เหมาะที่จะขยายกิจการปรับปรุงเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ได้ จึ่งได้ติดต่อขอเช่าพื้นที่จากร้านราชาปูดอง ที่ถือว่าเป็นปูดองที่อร่อยขึ้นชื่อที่สุดก็ว่าได้ นำมาปรับปรุงปลูกสร้างอาคารเป็นภัตตาคารขนาดใหญ่ บนพื้นที่เดิม และตั้งชื่อใหม่ว่า "ร้านอาหารเลควิว" ซึ่งจะมีเอกลักษณ์ ที่เห็นเด่นชัดคือ กังหันลมสีขาว สูงกว่า 30 เมตร และยังใช้เป็นโลโก้ประจำร้านอีกด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่เดินทางผ่าน และในพื้นที่ มาอุดหนุนจำนวนมาก เพราะเป็นร้านอาหารลักษณะเปิด อากาศดี ติดกับหนองน้ำ 

พอปี พ.ศ. 2551 ได้ดำเนินกิจการร้านอาหารมาครบ 1 ปี ทางผู้บริหารร้านอาหารเลควิว เล็งเห็นว่า ร้านอาหารก็มีผู้คนมาใช้บริการมากหน้าหลายตา ได้พบปะพูดคุยกับบุคคลทั้งในพื้นที่ และผู้ที่เดินทางผ่านแวะเวียนอยู่บ่อยๆ หลายครั้งหลายครา ที่ผู้คนเหล่านี้ได้มาใช้บริการ ผู้บริหารจึงคิดว่า "จะทำอย่างไรเพื่อให้พื้นที่หนองน้ำที่เต็มไปด้วยป่ากก รกร้างแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด" จึงได้ปรึกษากันหลายๆ ฝ่าย ทีมงานบริษัท ทุกคนเห็นพื้นที่เป็นน้ำ ถ้าจะถมดินให้เต็มก็คงใช้เม็ดเงินมหาศาล ต้องทำให้พื้นที่ที่มีอยู่แล้วปรับปรุงเล็กน้อยก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ มีคนเอ่ยขึ้นว่า ?ทำตลาดน้ำสิ..ดีมั้ย? มันเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบรับจากคนที่ได้ยินในวันนั้น ท่ามกลางความเงียบของท้องทุ่ง หนองน้ำ ทุกสายตาหันไปมองทุ่งป่ากก ที่รกร้าง สุดที่จะคาดคะเนในความคิดของแต่ละคนที่ได้ยิน

จากวันนั้น ได้ปล่อยให้ช่วงเวลาได้หายไปหลายสัปดาห์ มีผู้คนมากหน้าหลายตา มาเยือนร้านอาหารเลควิว มีทั้งบุคคลมีชื่อเสียง นักการเมือง ดารา นักร้องชื่อดัง รวมถึงนักธุรกิจทั้งจากกรุงเทพฯ และในพื้นที่ ได้พบปะสังสรรค์กันเป็นประจำ ท่ามกลายสายตาของพนักงานร้าน ต่างคิดกันไปต่างๆ นา ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรในพื้นที่นี้หรือเปล่า

จากที่มีการโยนหินถามทางว่าจะทำตลาดน้ำกันดีมั้ย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีรถแบ็คโฮสีเหลืองลอยละล่องกลางหนองน้ำ ทำการขุดลอกขนานใหญ่ แสดงว่า คำพูดเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร และในช่วงเวลาที่เงียบหายไป โครงการในจินตนาการ ได้แปลงเป็นสิ่งที่มองเห็น และมีบทสรุปที่ชัดเจน ว่า มันคือ ตลาดน้ำ นั่นเอง ท่ามกลางความแปลกใจ สงสัยของผู้คนที่สัญจรไปมาบนถนนสุขุมวิท ว่า เขาจะทำอะไร?

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารตลาดน้ำขณะนั้น ได้สำรวจพื้นที่ทั้งหมดทั้งบนดิน ทางอากาศ เพื่อไปเขียนแบบโครงสร้าง และไปเสนอแหล่งทุน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี และเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ทำการขุดบ่อ ลอกป่ากกออก ปรับปรุงทิวทัศน์ให้สวยงาม และทำการก่อสร้าง โดยได้ยึดตามแผนที่ประเทศไทย มาเป็นโครงสร้างของตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา แบ่งเป็นโซน 4 ภาค เหนือ กลาง อีสาน และใต้ โดยมีช่องทางเดินเรือจากภาคเหนือ ไหลลงปากแม่น้ำสู่อ่าวไทย โดยยึดหลักแนวคิดที่ว่า 4 ภาค 4 ภาษา 4 ภูมิปัญญา 4 วัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นตลาดน้ำที่สามารถกำหนดรูปแบบ โครงสร้างได้ว่าจะให้ตลาดน้ำไปในทิศทางไหน ซึ่งจะต่างจากตลาดน้ำทั่วไป ที่เกิดจากชุมชนในพื้นที่ทำมาค้าขายกัน แต่ตลาดน้ำพัทยา จะเป็นตลาดที่่กำหนดอยากจะให้เป็นในรูปแบบที่ต้องการ และก่อสร้างแล้วเสร็จปลายเดือนตุลาคม 2551 ก่อนจะเปิดทำการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 

หลังจากที่เล่าถึงความเป็นมาของตลาดน้ำซะยาวเหยียดก็หันมาดูสิ่งที่น่าสนใจภายในตลาดน้ำกันบ้างครับ จากพื้นที่ปกคลุมกว่า 62 ไร่ นักท่องเที่ยวมีกิจกรรมอะไรหลายอย่างให้ได้ทำกันในตลาดน้ำเมื่อคุณมาเที่ยวครับ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ทั้งสินค้าพื้นเมืองพื้นบ้าน สินค้าแฟชั่น และสินค้า Handmade หรือจะเป็นการเลือกชิมอาหารมากมายหลากหลายชนิดที่มีขายอยู่บนเรือนไทย และในเรือพาย ที่ทำให้ย้อนนึกกลับไปถึงวันวานกับการใช้วิถีชีวิตของคนรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ที่เน้นการค้าขายและการคมนาคมทางน้ำเป็นหลัก

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังเข้ามาทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) ได้อย่างเพลิดเพลินกันทั้งครอบครัว ไม่ว่าเป็น การโหนสลิงแอดเวนเจอร์ สำหรับครอบครัวที่รักการผจญภัย การล่องเรือพายเพื่อสัมผัสเสน่ห์แห่งสายน้ำ และสนุกสนานไปกับการล่องเรือเพื่อเลือกซื้อเลือกชิมอาหารที่มีขายอยู่ในเรือพายตลอดทั่วทั้งโครงการ การเล่นเครื่องเล่น Water Buggi ที่จะพาคุณหนูๆ ไปสนุกสนานและผจญภัยเล็กๆ ภายในเวิ้งน้ำที่สวยที่สุดของโครงการ

หลังจากที่เกริ่นไปแล้วนั้นว่าตลาดน้ำ 4 ภาค มีของให้เลือกช็อป เลือกกิน และกิจกรรมเยอะแยะแล้วนั้น จริงๆ ยังมีอีกนะครับ และเพื่อเป็นการเสียเวลามาดูส่วนอื่นๆ กันต่อได้เลย

สำหรับคนที่อยากตื่นเต้นผจญภัยให้มากขึ้น ทางตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) มีบ้านผีสิง ให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัสกับความหวาดผวาน่ากลัวของผีแบบไทยกันครับ หรืออยากจะไปตื่นเต้นผจญภัยกับบ้านหนุมาน (HANUMAN MAGIC LAND) ที่น่าตื่นตาตื่นใจ กับการค้นหาทางออกถึงสี่ด่านสี่มิติที่แตกต่างกันอย่างคาดไม่ถึงอันนี้ก็มี ส่วนใครที่ชื่นชอบอาวุธโบราณที่ตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) ก็ยังมีซุ้มยิ่งปืน ยิงธนู และยิงหน้าไม้ ให้กับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอีกด้วย

กิจกรรมภายในตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ครับ เพราะล่าสุด ทางโครงการฯ ได้เปิดตัวเรือสะเทินน้ำสะเทินบก เรือเอี๊ยมจุ้นลำใหญ่ ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับประสบการณ์การนั่งเรือที่ไม่มีที่ไหนมาก่อน เพราะเรือสะเทินน้ำสะเทินบกจะพาล่องเรือไปตามลำน้ำเพื่อสัมผัสบรรยากาศอันสวยงามของตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) และยังจะพานักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจกับการวิ่งบนบกเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของคนไทยชนบทในพื้นที่ตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) (พื้นที่เฟส3 และเฟส4) ซึ่งรับรองว่าน่าจะเป็นประสบการณ์ที่สุดแสนจะประทับใจไม่รู้ลืมกันเลยทีเดียว

ความสนุกในเชิงของการท่องเที่ยวที่มีกันอย่างครบครันแล้ว ทางตลาดได้พัฒนาโครงการในพื้นที่เฟส 3 และเฟส 4 เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษาความเป็นวิถีไทยกันอีกด้วย โดยการจำลองหมู่บ้านที่แสดงถึงการใช้วิถีชีวิตแบบไทย การจำลองหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงมาไว้ในพื้นที่อีกกว่า 16 ไร่ โดยเมื่อย่างก้าวเท้าเข้าไป สิ่งที่จะได้พบนั่นคือ เรือนไม้ยกใต้ถุนสูง ที่จะแสดงถึงการใช้ชีวิตของคนไทยในชนบท ทั้งการเลี้ยงสัตว์ไว้ใต้ถุนเรือน การปลูกพืชผักสวนครัว และวิถีชีวิตแบบไทยอีกมากมาย และในส่วนของศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง จะได้เห็นถึงการทำไร่นาสวนผสม การสาธิตการทำผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรในครัวเรือน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการใช้ชีวิตที่ดำเนินรอยตามพระราชดำหริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง

ที่เหลือนอกจากนี้ ที่นี่ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีการแสดงรำตามลานการแสดงต่างๆ และจะมีโชว์ใหญ่สุดอลังการที่เวทีกลางน้ำให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมไปกับความสวยงามของนาฎศิลป์ไทย โดยนักท่องเที่ยวสามารถติดตามรับชมได้ทุกต้นชั่วโมง ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีการโชว์ชกมวยทะเล ศิลปะการต่อสู้ที่หาดูได้ยากในสมัยนี้ ทุกวัน เวลา 13.30 น. และเวลา 15.30 น.