จุดหมายปลายทางของเราทั้งสองอยู่ที่ เกาะเต่า – เกาะนางยวน สองเกาะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานีดำน้ำดูปะการังสวยๆ ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก (รวมทั้งความสวยงามด้วย) ซึ่งก่อนหน้านี้กว่าที่ตัวเลือกจะหลุดมาเป็น เกาะเต่า – เกาะนางยวน พวกเราได้ทำการคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ทิ้งไปหลายตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็น ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์, น้ำตกทีลอซู จ.ตาก, อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี รวมทั้งสถานที่ใกล้กับสองเกาะที่เราเลือกอย่าง เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี  ก็โดนปัดลงถังขยะทิ้ง

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_1
ให้หลังจากได้สถานที่เที่ยวเสร็จสรรพ เป็นอันตกลงกัน กระบวนการวางแผนก็เริ่มขึ้น ไล่ไปตั้งแต่การหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวบนสองเกาะว่ามีอะไรบ้าง การเดินทางเป็นยังไง ที่พักตรงไหนน่าจะเหมาะ ซึ่งถ้าจะให้ผมจัดลำดับความสำคัญในการวางแผนการท่องเที่ยว ก็ควรจะทำกันแบบนี้

อันดับแรก จองตั๋วรถ เรือ เครื่องบิน กันให้เรียบร้อยซะว่าจะไป – กลับกันวันไหน จากนั้นค่อยหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวแบบคร่าวๆ (ย้ำ! ว่าแบบคร่าวๆ) เพื่อทำการหาพิกัดเหมาะๆ ในการจองที่พักที่อำนวยความสะดวกที่สุดสำหรับเรา ในการสัญจรไปมากับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และสุดท้ายเมื่อได้ที่พักกันแล้ว ค่อยกลับมาหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวแบบละเอียดๆ อีกรอบ ว่าแต่ละที่มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_15

เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยัง เกาะเต่า – เกาะนางยวนนั้น ถ้ายึดเอากรุงเทพฯ เป็นจุดเริ่มต้น สามารถเลือกเดินทางได้สองเส้นด้วยกันคือหนึ่งมาลงตัวเมืองชุมพร และสองมาลงตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งหลังจากคิดคำนวณแล้ว ผมเลือกเส้นทางหลัง เนื่องจากตั๋วเครื่องบินมันถูกกว่า (เที่ยวบินก็เยอะกว่าด้วย) อีกทั้งเมื่อรวมค่าเรือที่จะไปยังเกาะเต่า – เกาะนางยวน แล้วบวกลบคูณหาร เส้นทางหลังดีกว่านิดๆ 

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_2

พวกเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่สุราษฎร์ธานีด้วยสายการบินนกแอร์ ในช่วงเช้า ก่อนจะต่อรถตู้ของ บ.เรือเร็วลมพระยา ไปยังท่าเรือดอนสัก สุราษฎร์ธานี โดยมีกำหนดเดินทางออกจากท่าเรือดอนสัก – เกาะเต่า ในช่วงสายๆ ของวัน

กล่าวสำหรับการซื้อตั๋วเรือของ บ.เรือเร็วลมพระยา สามารถติดต่อที่จุดจำหน่ายตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์ตรงสนามบินสุราษฎร์ธานี ท่าเรือดอนสัก หรือจะสามารถสำรองตั๋วที่  http://lomprayah.com ได้ โดยราคาตั๋วเรือ จะอยู่ระหว่าง 600 – 800 บาท (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการบางอย่างที่ต้องเก็บเพิ่ม เช่น ค่ารถตู้รับส่งจากสนามบินมายังท่าเรือ ซึ่งส่วนใหญ่มักคิดราคารวมเลยเมื่อซื้อตั๋วไปแล้ว)

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_3

พลันที่นั่งรถตู้ถึงท่าเรือดอนสักเสร็จในช่วงสายๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ค่อนข้างจะครึ้มซักนิดนึงตั้งแต่เช้า ในระหว่างที่กำลังรอเรือ พวกเราก็จัดการหาอะไรกินแถวนั้น และก็ได้ร้านอาหารรถเข็น เป็นร้านข้าวแกงแบบปักษ์ใต้ ซึ่งจากสภาพภายนอกแม้ว่ามันจะมองดูบ้านๆ แต่ในความบ้านๆ มันก็มีความอร่อยแฝงอยู่จนน่าติดใจ ถึงขนาดทำให้ผมหมดข้าวเปล่าไปตั้งสองจาน

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_4

ท้องอิ่มในยามสายเสร็จ นั่งกินขนมเล่นไม่นานนัก เรือเร็วลมพระยา ก็มาเทียบท่ารอรับผู้โดยสารพร้อมขนส่งไปยังปลายทางแต่ละที่ ถ้าเทียบให้เห็นภาพเส้นทางที่กำลังจะมุ่งหน้าไปก็จะออกมาดังนี้ คือ ท่าเรือดอนสัก – เกาะสมุย – เกาะพะงัน – เกาะเต่า

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_5

เดินทอดน่องไปขึ้นเรือ พร้อมลั่นชัตเตอร์เก็บภาพชาวประมง ตามรายทางที่กำลังดักซุ่มทอดแห อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าการเดินทางของพวกเรากำลังจะเริ่มขึ้น 

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_6

ให้หลังจากวางตูดบนเรือเร็วลมพระยาเสร็จ โดยเลือกที่นั่งด้านนอกเอาที่โล่งๆ เน้นดูวิวซักหน่อย เราสองคนก็ได้เวลาทอดสายตามองไปรอบๆ บนท้องทะเลว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง พลางหยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์ สภาพอากาศในวันนั้น ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันอยู่ในอาการครึ้มฟ้าครึ้มฝน ที่ดูๆ แล้ว คิดว่าวันนี้คงตกกันลงมาอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะตกกันตอนไหน เมื่อไหร่ และที่ใด

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_7

นั่งเรือกินลมชมวิวไปเรื่อย ประมาณบ่ายโมงเรือก็มาถึงเกาะพะงัน ซึ่งผู้โดยสารที่จะต่อเรือไปยังเกาะเต่า ต้องลงเปลี่ยนเรือกันที่นี้ ระหว่างที่กำลังรอเปลี่ยนเรือ ไอ้เรื่องฝนที่ผมคิดไว้แต่แรก มันก็มาตามนัดกันทันทีเลยครับ แถมไม่มาแบบธรรมดา มาแบบจัดหนัก มีของแถมเป็นลมมรสุมด้วย

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_71

ศาลาที่พักของผู้โดยสารเรือขนาดเล็กที่ไม่มีกันสาด ในวันนั้นต่อให้ใครที่เข้าไปยืนข้างในสุด ก็เปียกกันหมด เพราะลมหอบเอาฝนสาดเข้ามาด้านใน นักท่องเที่ยวฝรั่งหลายคนที่พากันเห็นท่าไม่ดี ต่างก็พาหยิบเอาเสื้อกันฝนออกมาคลุมใส่ไม่ให้ตัวเองและสัมภาระเปียก ส่วนผมนาทีนั้นเสื้อกันฝนก็ไม่มี ร่มก็ไม่มี อาศัยไปนั่งหลบตามโต๊ะ และตู้เก็บของเอา พร้อมหอบกล้องกับเลนส์หลายตัวหลบฝนไม่ให้มันเปียกน้ำ 

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_72
พอโดนสาดมาบ่อยๆ จนเปียก ความหนาวก็เริ่มก่อตัวตามลำดับจนถึงกับสั่นเป็นเจ้าเข้า หนาวไม่พอ ใครคนนี้ยังมาปวดฉี่อีก แถมห้องน้ำแถวนั้น ก็ไม่มี เป็นอันว่างานนี้หนักหนาสาหัสกันสุดๆ สุดท้ายไม่ไหวจริงๆ ผมเลยเลือกวิ่งตากฝนไปหลบหามุมฉี่เอา เพื่อปลดปล่อยความทุกข์ ในระหว่างกำลังรอเรือ

โดนฝนซัดเปียกเป็นหมาน้อยตกน้ำกว่า 40 นาที พอฝนหยุด เรือก็มากันพอดีได้เวลา (ตอนไม่ตกเสือกไม่มานะ) พวกเราสองคนรีบเดินไปต่อคิวหาที่นั่งข้างในเหมาะๆ จากนั้นไม่นาน ประมาณชั่วโมงนิดๆ จากท่าเรือเกาะพะงัน เจ้าเรือเร็วลมพระยาก็พาเราทั้งสองคนและลูกเรือคนอื่นๆ มาถึงเกาะเต่ากันเรียบร้อย โดยจอดเทียบท่าที่อ่าวแม่หาด อันเป็นศูนย์รวมความเจริญบนเกาะเต่า ที่คับคั่งไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_73

ลงเรือมาได้ พวกเราก็รีบสับตีนออกมาหารถที่จะพาเราไปยังโรงแรมที่จองไว้ครับ เดินออกมายังไม่พ้นท่าเรือเท่าไร ก็เจอชายอายุราว 30 ปลายๆ ยืนชูป้ายกระดาษเรียกชื่อจริงผมเป็นภาษาอังกฤษ

?มิสเตอร์อภิชาติ?? (สำเนียงแบบฝรั่งซักหน่อย)

ผมบอกใช่แล้ว ผมนี่แหละอภิชาติ ฮ่าๆๆ และผมก็เป็นคนไทย นี่ใช่รถโรงแรมที่มารับใช่มั้ยครับ

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_74

พอตอบตกลงกันเสร็จสรรพ เป็นอันว่ารถของทางโรงแรมมารับพวกเรา พร้อมทั้งลูกค้าอีกคนที่มาจองโรงแรมไว้ ก่อนจะพาพวกเรามุ่งหน้าไปยัง View Point Resort ที่พักสำหรับพวกเราคืนนี้ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันกับอ่าวโฉลกบ้านเก่า

ระหว่างทางมา View Point Resort ต้องบอกเลยว่า โอโห้ครับ ทางมันจะระห่ำไปไหน รถที่จะมาได้ต้องประเภท 4X4 หรือมอเตอร์ไซค์วิบากเท่านั้น ไอ้ประเภทมอเตอร์ไซค์ธรรมดาเนี่ย ต้องใช้ทักษะในการขับค่อนข้างสูง เพราะมันต้องขึ้นเนิน ลงเนินซิกแซกพอสมควร ผมเลยคิดในใจ มิน่าล่ะ เขาถึงส่งรถของทางโรงแรมให้มารับ

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_81
ไปถึง View Point Resort เสร็จ ก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกทั้งชุดตั้งแต่อยู่บนเกาะพะงัน แล้วเดินออกมาหาอะไรกินกันในตอนเย็น สอบถามพนักงานโรงแรมบอกว่า เดินจากโรงแรมเลียบเลาะไปตามชายหาดซัก 500 เมตร จะเป็นอ่าวโฉลกบ้านเก่า แถวนั้นมีวิวให้ได้ชม หาดลงเล่นน้ำได้ (แต่ไม่เหมาะเท่าไร) และมีร้านอาหารให้เลือกจิ้มว่าจะกินอะไรกัน

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_8

บรรยากาศของอ่าวโฉลกบ้านเก่าระหว่างเดินผ่าน อ่าวนี้จะมีลักษณะเว้าลึก ขนาบไปด้วยปลายแหลมทั้ง 2 ฝั่ง บริเวณหาดทรายมีความยาวกว่า 250 เมตร ซึ่งมีสีขาวสะอาด ลาดลงไปกับน้ำทะเลที่ใสสะอาด บริเวณใกล้เคียงอ่าวมี หาดเทียนออก ที่เป็นจุดชมปลาฉลาม ส่วนด้านท้ายของอ่าวโฉลกบ้านเก่าไปทางเหนือก่อนเข้าสู่แหลมตาโต๊ะ จะเป็นกองหินกองใหญ่ ซึ่งหากไปยืนมุมนี้จะมองเห็นโค้งอ่าวได้ทั้งหมด

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_82
จุดชมวิวแจ่มๆ ของอ่าวโฉลกบ้านเก่ามีหลายแห่งด้วยกันครับ ที่เขาแนะนำมา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกร้านอาหารที่จุดชมวิวเฉพาะอย่าง LAST PARADISE อยู่บนเนินเขาจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ ที่สามารถมองเห็นอ่าวโฉลกบ้านเก่าและอ่าวข้างเคียง ได้ ซึ่งตอนที่สวยที่สุดคือยามพลบค่ำ ร้านอาหาร บานาน่าร็อค ที่ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขา ภายในร้านจะมีระเบียงที่เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็น แหลมกุลจือ อ่าวโฉลกบ้านเก่า และหินตาโต็ะ วันไหนอากาศดีหน่อย ท้องฟ้าปลอดโปร่ง จะสามารถมองได้ไกลถึง เกาะพะงัน เกาะสมุย และหมู่เกาะอ่างทองได้ และที่สำคัญในช่วง เดือน พ.ย.-ม.ค. อ่าวแห่งนี้ จะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าได้ ไม่แพ้หาดทรายรี 

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_83

สำหรับผม เลือกเดินเก็บบรรยากาศ แถวริมหาดของอ่าวก็พอ เพราะไม่มีเวลาจะไปยังจุดอื่นๆ ที่เหลือซึ่งก็ใกล้จะค่ำแล้ว อีกอย่างตอนนี้ท้องไส้ก็กำลังหิวมาก ฉะนั้นเลือกปักหลักกินข้าวแถวนี้ ชมหาดไปเรื่อยแล้วค่อยเดินกลับโรงแรมเอา

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_84
เย็นวันนั้นได้กระเพราหมู หมูทอดกระเทียม เป็นอาหารดับหิวมื้อสุดท้ายของวัน ก่อนพวกเราจะเดินกลับไปยังโรงแรมตอนใกล้ค่ำ เพื่อตัวเตรียมพักผ่อน และวางแผนไปเที่ยวกันต่อในวันพรุ่งนี้ ว่ามีที่ไหนน่าไปกันบ้าง

แต่ก่อนจะไปถึงวันรุ่งขึ้น คืนนี้ขอเสพบรรยากาศวิวริมทะเลเงียบๆ ตอนกลางคืนให้ชื่นใจกันก่อนนอนครับ

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_85

วันที่สองของพวกเราสองคน ในการใช้ชีวิตอยู่บนเกาะเต่า ด้วยความที่โรงแรมที่มาพัก ราคาที่จ่ายไปไม่ได้มีอาหารเช้า (ถึงมี ก็ไม่ได้เป็นคนคาดหวังอาหารเช้ากับโรงแรมมาแต่ไหนแต่ไร) ทำให้เราทั้งสองคนต้องออกมาหาอะไรกินกันข้างนอก แต่การจะออกมานั้น แน่นอนว่าเราต้องการยานพาหนะคู่ใจ ซึ่งคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากมอเตอร์ไซค์เอาไว้ให้พวกเราซิ่งซักคัน

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_91

ก่อนมาเกาะเต่าผมไล่อ่านข้อมูลการเช่ามอเตอร์ไซค์บนเกาะแห่งนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง มีอะไรที่ควรต้องทำ ถ้าหาเราต้องไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์ซักคันมาขับ ซึ่งส่วนใหญ่เท่าที่อ่านมา มักจะบอกไปในทิศทางเดียวกันว่า ค่ามัดจำเช่ามอเตอร์ไซค์ที่นี่แพง อีกอย่างก่อนเช่ารถอย่าลืมตรวจเช็คสภาพว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่ ตอนเอามามันอยู่ในสภาพไหน เพราะเวลาเอารถไปคืน ร้านที่ปล่อยให้เราเช่าจะได้ไม่ขี้ตู่ปรับเอาค่าเสียหายแบบเนียนๆ 

ผมเช่ามอเตอร์ไซค์มาได้ในราคาที่ไม่แพงนัก เมื่อเทียบกับข้อมูลที่อ่านมาได้ ซึ่งไอ้คำว่าไม่แพงของผมเนี่ยก็คือ ค่ามัดจำ 1000 บาท  + บัตรประชาชน + ค่าเช่ารายวันประมาณ 350 บาท 
เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_92
รถได้มาแล้วก็ได้เวลาซิ่งเพื่อตระเวนไปเที่ยวยังหาดยังอ่าวอื่นๆ ก่อนไปช่วงเที่ยงของวันก็ต้องเติมพลังด้วยอาหารมื้อแรก พูดถึงเรื่องร้านอาหารที่เกาะเต่า โซนที่ผมอยู่ ประเภทร้านที่ติดหาดติดอ่าวมีค่อนข้างน้อย ต้องขับรถมาหากินที่อื่นเอา และที่มักจะเห็นก็เป็นร้านอาหารธรรมดานี่แหละ

สถานที่ของเราในวันนี้ ที่จะออกไปเริงร่ากันเป็นแหลมเจ๊ะตากัง ใจจริงทีแรกจะมาอ่าวจันทร์สม กับหาดทรายนวล แต่ด้วยความที่หลงทาง และหาที่จะไปไม่เจอ สุดท้ายเลยมาทะลุ เต่าทอง บังกะโล อันเป็นที่ตั้งของ แหลมเจ๊ะตากัง 

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_93

แหลมเจ๊ะตากัง เป็นอีกแหลมที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเต่า มีที่พักกันแค่ไม่กี่ที่ แถวนี้บรรยากาศเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวพอสมควร กิจกรรมบนแหลมเจ๊ะตากัง ก็ไม่มีอะไรมาก นอกชมวิวทิวทัศน์กับพักผ่อนกันแบบสบายๆ แหละครับ ส่วนไอ้เรื่องจะเล่นน้ำเล่นท่า แถวนี้ไม่เหมาะกันเท่าไหร่
เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_94
ภารกิจวันที่สองของพวกเราผ่านไปอย่างเรียบง่าย ไปที่แหลมเจ๊ะตากังเสร็จ ประมาณชั่วโมงกว่าก็พากันกลับโรงแรมไปนั่งเล่นกันตรงระเบียง ตกเย็นมาผมออกไปเล่นน้ำตรงอ่าวโฉลกนิดหน่อย ก็เป็นอันว่าหมดไปกับหนึ่งวันพักผ่อนแบบธรรมดาๆ แต่ทว่าสบายใจ

ส่วนตอนหน้า ไว้ผมจะพาไปยังเกาะนางยวน เกาะที่ว่ากันว่าสวยติด 1 ใน 10 ของโลก

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_95

ตื่นเช้ามาวันที่ 3 กับชีวิตติดเกาะ ภารกิจหลักวันนี้ที่เราปักหมุดไว้ก็คือการพาเท้าตัวเองไปสัมผัสยังเกาะนางยวน ก่อนจะไปขอพูดถึงที่พักอย่าง View Point Resort กันซักหน่อย ในฐานะใช้เป็นที่พักกันถึง 2 คืน

View Point Resort นั้นเท่าที่สัมผัสมา มีดีตรงที่วิวสวย เงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อนแบบส่วนตัว จุดด้อยน่าจะเป็นบางพื้นที่ของที่พัก (พวกสวนหย่อม) มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อีกอย่างการเดินทางที่ค่อนข้างจะมีปัญหาซักหน่อยสำหรับคนที่เช่ามอเตอร์ไซค์ขับ แล้วไม่ค่อยชำนาญทางเท่าไหร่นัก แต่ถ้าฝีมือการขับอยู่ในระดับปานกลาง ถนนลาดชันแค่นั้นไม่น่าส่งผลสะทกสะท้านอะไรเยอะ

เกาะนางยวน_51

พูดถึงเรื่องโรงแรมเสร็จมาว่ากันถึงเรื่องเที่ยวต่อ การจะเดินทางไปเกาะนางยวน เราต้องไปขึ้นเรือตรงอ่าวแม่หาดครับ แถวนั้นจะมีบริการเหมาเรือนั่งไปยังเกาะนางยวนหลายเจ้า ของผมใช้บริการเรือเร็วลมพระยา ไปกันสองคน จ่ายไปคนละ 400 บาท เรือที่นั่งเป็นเรือยนต์ขนาดเล็ก นั่งประมาณ 20 นาทีก็เป็นอันว่าถึง ซึ่งในวันดังกล่าวพวกเราออกจากนั้นท่าเรือประมาณบ่ายโมงกว่า และนัดให้คนเรือมารับประมาณบ่ายสี่โมงเย็น

เกาะนางยวน_52
ระหว่างนั่งเรือมายังเกาะนางยวน จะสังเกตเห็นได้ว่ายิ่งเข้าใกล้เกาะนางยวนมากเท่าไร น้ำทะลแถวนี้ก็ดูจะใสขึ้นมากว่าเดิม คือมันใสมาก ใสแบบสวยตรึงตาจริงๆ

เกาะนางยวน_53

เกาะนางยวน ตามพิกัดที่ตั้ง จะวางตัวอยู่ทางทิศเหนือของเกาะเต่า อันมีเกาะเล็กๆ 3 เกาะ ถูกเชื่อมเข้าหากัน และมีอ่าวส่วนตัวถึง 3 อ่าว เกาะแห่งนี้เหมาะมากกับการเล่นน้ำ และดำน้ำดูปะการัง เป็นอย่างยิ่ง บนเกาะสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้บนหาดเดียวกัน อันเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น ของเกาะนางยวน ที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก นอกจากนี้บนเกาะยังมีจุดชมวิวที่ว่ากันว่าสวยจับใจกันสุดๆ โดยจุดชมวิวที่ว่าต้องเดินขึ้นเขาไปประมาณ 1 กิโลเมตร ตรงจุดนั้นสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์บนเกาะได้ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นแลนมาร์คสำคัญที่ห้ามพลาดกันด้วยประการทั้งปวง

เกาะนางยวน_54

ส่วนเรื่องอื่นๆ บนเกาะอย่างร้านอาหาร เท่าที่สังเกตจะมีด้วยกันแค่ 2 – 3 แห่งเท่านั้น (ไม่นับรวมกับโรงแรม) ส่วนที่พักบนเกาะนางยวนจะมีกันแห่งเดียวเท่านั้น คือ นางยวน ไอซ์แลนด์ ไดฟ์ รีสอร์ท และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวกันที่นี้ จะเป็นชาวต่างชาติเยอะ ซึ่งก็มีทั้งเอเชียตะวันออก ยุโรป อเมริกา ส่วนคนไทยขอบอกว่าน้อยมากๆ จนแทบจะนับหัวได้เลย

เกาะนางยวน_55
ส่วนตอนหน้าจะพาไปเที่ยวหาดทรายรี หาดขึ้นชื่อของเกาะเต่า ที่ใครๆ เขาก็พากันไปเดินเล่น

ออกจากเกาะนางยวนราวๆ สี่โมงเย็น พลันเรือแตะถึงฝั่ง พวกเราก็พากันรุดหน้ามายังหาดทรายรี เพื่อเดินเล่นและชมพระอาทิตย์ตกดินกันที่นี่ ซึ่งว่ากันว่าที่หาดทรายรี เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดบนเกาะเต่า

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_11


ลักษณะของหาดทรายรีนั้น เป็นหาดขนาดใหญ่ครับ ชายหาดมีความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร ทรายตรงหาดจะมีลักษณะสีขาวอมน้ำตาลนิดๆ ละเอียดนุ่ม เหมือนแป้ง ชายหาดค่อยๆ ลาดลงไป ตัวหาดจะขนานไปกับทิวเขาและต้นสน ซึ่งทางตอนใต้ของหาดก็จะมีก้อนหินเรียงรายอยู่บนชายหาด มีลักษณะเหมือนกับสวนริมทะเล และมีหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณ ปากธารน้ำจืด ที่หินจะมีการแกะสลักคำว่า จ.ป.ร. ซึ่งหมายความว่า ในสมัยก่อนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาประภาสที่ เกาะเต่าแห่งนี้ จึงได้โปรด สลักหินที่เป็นตัวอักษรนี้ไว้ เมื่อปี พ.ศ.2442 และในปัจจุบันนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวหาดแห่งนี้ บางคนจึงเรียกว่า หาด จปร. ถัดไปจากนั้นไปไม่ไกลมีอุทยานหอยมือเสือ ซึ่งเป็นศูนย์เพาะพันธุ์ หอยมือเสือและสัตว์น้ำนานาชนิด

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_12

ข้อดีของหาดทรายรี นอกจากจะเป็นที่ชมพระอาทิตย์ตกดินสวยแล้ว หาดนี้ยังเหมาะเป็นที่ลงเล่นน้ำกว่าใคร อีกทั้งยังมีที่พักบริการมากมายหลายแห่ง รวมทั้ง ผับ บาร์ เรียกได้ว่าในยามค่ำคืน ค่อนข้างที่คึกคักกันพอสมควร โดยเฉพาะระหว่างทางที่ตรงลงมายังหาด กรณีใครไม่ชอบความวุ่นวาย อยากได้ความสงบซักเล็กน้อยในการพักผ่อน ก็อาจจะเลือกโรงแรมที่พักที่ห่างจากจุดนี้กันซักหน่อยครับ ประเดี๋ยวจะพาลหงุดหงิดเอาเวลานอนกันตอนกลางคืน ซึ่งผมก็เลือกพักแบบนั้น เพราะไม่ชอบอะไรเสียงดังรบกวนจิตใจ

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_13
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าลาโลก ปล่อยให้พระจันทร์สับเปลี่ยนมาทำหน้าที่แทน พวกเราสองคนก็พากันเข้าที่พักของวันที่ 3  ซึ่งเปลี่ยนใหม่เป็น ทิพย์วิมาน รีสอร์ท ซึ่งจะตั้งอยู่บนเนินเขาบนเกาะเต่า คือจากท่าเรือแม่หาดมา มุ่งหน้ามาทางหาดทรายรี ตรงไปเรื่อยๆ ใช้เวลาราวๆ 10 นาที ก็เป็นอันถึง (ใครเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไป โทรถามเจ้าหน้าที่โรงแรมก่อนได้ครับ เพื่อความชัวร์) และเหตุผลที่เราเลือกพักที่นี่เป็นคืนสุดท้าย เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศนอนกันบ้าง อีกทั้ง ทิพย์วิมาน รีสอร์ท ก็จัดว่าบรรยากาศดีใช้ได้ รวมทั้งในวันที่จะกลับ มันก็ใกล้กับท่าเรือแม่หาด ตรงที่เราจะขึ้นเรือ เพื่อกลับสู่มาตุภูมิ นัยว่าเป็นการประหยัดเวลาไปในตัว

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_14

แล้วมาต่อกันอีกตอนให้จบกับเรื่องราวทั้งหมดที่ยังคงเหลือ และอีกบางเรื่องที่ยังอยากเล่า แต่ยังไม่ได้เล่ากันครับ คุณผู้อ่านที่เคารพรัก

และแล้วก็มาถึงตอนจบกันกับวันสุดท้าย ที่ใช้ชีวิตเที่ยวบนสองเกาะ

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_21

พูดถึงเรื่องที่พักก่อนล่ะกัน ที่พักคืนสุดท้ายที่ ทิพย์วิมาน รีสอร์ท พูดแบบตรงไปตรงมา จุดเด่นของที่นี่เลยก็คือ วิวตรงระเบียงห้องพักมันสวยครับ อารมณ์ประมาณว่า แค่นายเปิดประตูออกมานอกระเบียง ก็พร้อมที่จะสัมผัสถึงบรรยากาศกลิ่นไอของทะเลได้แล้วอยู่ตรงหน้า พอเหวี่ยงสายตาออกไปก็จะพบกับทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา สำหรับบรรยากาศรอบๆ โรงแรมค่อนข้างที่จะร่มรื่นไปด้วยไม้ดอกและไม้ประดับ และเงียบสงบดี กรณีตอนกลางคืนอาจจะลำบากไปหน่อยถ้าต้องเดินเข้าที่พัก เนื่องจากทางค่อนข้างจะมืดพอสมควร แถมทางเดินยังมีแยกกันหลายทาง อื่นๆ เรื่องการบริการ สภาพห้องพัก โอเคหมด คุ้มค่า คุ้มราคากับเงินที่จ่ายไป

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_22
มาถึงเรื่องไทม์ไลน์ช่วงสุดท้ายบนเกาะบ้าง พวกเรามีนัดกับเรือเร็วลมพระยาประมาณ 10.00 น. เพื่อเดินทางกลับ โดยออกจากเกาะเต่า แล้วมุ่งหน้าไปยังเกาะพะงัน -เกาะสมุย – ท่าเรือดอนสัก แล้วค่อยต่อรถเข้าในเมืองสุราษฎร์ธานี ก่อนกลับมีปัญหานิดหน่อยอตอนเอามอเตอร์ไซค์ที่เช่าเขาไปส่ง เพราะผมเอารถไปส่ง แล้วเกือบมาขึ้นเรือไม่ทัน เรียกได้ว่าวิ่งกันหอบแดกเลยเชียว เพื่อที่จะมาให้ทันเรือออก

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_23

ในวันที่นั่งเรือกลับ สภาพอากาศถือว่าแตกต่างกันมากกับวันที่มา วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แดดดี ไม่เหมือนกับที่วันมาที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน และโดนฝนเล่นงานจนเปียกเป็นหมาน้อยตกน้ำ จากสิบโมงเช้าที่นั่งเรือมา ประมาณบ่ายสามโมง เราก็พากันถึงตัวเมืองสุราษฎร์ธานีเป็นที่เรียบร้อย และในช่วงเย็นของวันเพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เลยพากันไปเดินเล่นตลาดศาลเจ้า เมืองสุราษฎร์ เพื่อหาของกิน และก็ไม่ผิดหวังที่ตลาดแห่งนี้ของกินอร่อยๆ มีให้เลือกกินเพียบ ที่โดนใจผมสุดๆ นี่เลย ขนมจีนน้ำยาปู พร้อมผักเครื่องเคียงแบบเต็มอัตราศึก

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_24

ตกเย็นมาซักหน่อยเราทั้งสองก็ย้ายตูดไปเดินเล่นที่เกาะลำพู ซึ่งอยู่กลางแม่น้ำตาปี ในตัวเมืองสุราษฎร์ เกาะแห่งนี้ให้อารมณ์ประมาณสวนสาธารณะที่ทำให้ชาวบ้านมาพักผ่อน มาเดินเล่นกัน บรรยากาศจัดว่าเงียบสงบใช้ได้ ในการปลีกวิเวก สำหรับสังคมในเมือง

จบจากนี้เข้าที่พักในเมือง เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ได้เวลาที่ต้องเดินทางกลับ โดยต้องไปขึ้นรถตู้ที่ตลาดเกษตร เพื่อเดินทางไปยังสนามบินสุราษฎร์ แต่ด้วยความที่พากันไปไม่ทันคิวรถ เลยต้องถูกชดใช้โดยการเหมาแท็กซี่ไปเอา และก็แน่นอนเหลือเกินว่าถูกเรียกราคาค่าเหมารถในระดับหลักพัน

เที่ยวเกาะเต่าและเกาะนางยวน_25

ถึงสนามบินขึ้นเครื่องเสร็จ ผมทอดสายตาผ่านออกมาตรงริมหน้าต่างที่นั่งผู้โดยสาร เพื่อมองวิวทิวทัศน์ด้านล่าง รำลึกถึงความหลังกับทริป 5 วัน 4 คืน ในจังหวัดนี้

มีความสุขดี แม้จะไม่ที่สุด แต่ผมก็อยากจะหยุดช่วงเวลาดังกล่าวไว้นานๆ? มันสะกดความรู้สึกออกมาได้แบบนั้น