ครั้งหนึ่งในชีวิตพิชิตภูกระดึง

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย
พิกัด : 16.901126,101.764944

    ภูกระดึง มีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเทือกเขาเพชรบูรณ์ พื้นที่ราบบนยอดตัดของภูกระดึงมีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร เมื่อมองจากด้านบนจะมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ โดยภูกระดึงได้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย เนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อนบนภูกระดึงกันเป็นจำนวนมาก โดยทางอุทยานฯ ได้กำหนดให้เปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคมของทุกปี

    เส้นทางขึ้นสู่ยอดภูกระดึง นับเป็นเส้นทางเดินป่าที่มีเสน่ห์และเป็นเส้นทางเก่าแก่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นเดินขึ้นได้ตรงบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ในเส้นทางขึ้นจะมีบริเวณจุดพักและร้านอาหารหลายช่วง มีระยะทางรวมประมาณ 5.5 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานฯ ถึงหลังแป เมื่อขึ้นไปถึงหลังแปแล้วจะต้องเดินไปยังลานกางเต็นท์อีกประมาณ 3.6 กิโลเมตร

    อีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางเปิดใหม่ขึ้นที่อำเภอน้ำหนาว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นยอดภูกระดึงได้ที่บ้านฟองใต้ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเมื่อขึ้นไปถึงหลังแปแล้วจะถึงผาหล่มสักทันที เส้นทางนี้มีระยะทาง 5.2 กิโลเมตร เริ่มจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลย.5 (หนองผักบุ้ง) ถึงผาหล่มสัก

    ก่อนการเดินขึ้นพิชิตภูกระดึงจะต้องทำการชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ให้เรียบร้อยเสียก่อน ทั้งค่าธรรมเนียมบุคคล ค่าพื้นที่กางเต็นท์ ค่าเช่าอุปกรณ์ต่างๆ ค่ามัดจำขยะ และค่าลูกหาบคิดตามกิโลกรัม ซึ่งแต่ละคนจะมีการชำระค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายเหตุผลหลายปัจจัย เช่นบางคนอาจจะแบกสัมภาระขึ้นไปเอง ซึ่งแม้จะมีน้อยคนนัก แต่ก็มีข้อดีตรงที่ เมื่อขึ้นไปถึงลานกางเต็นท์แล้ว สามารถกางเต็นท์พักผ่อนได้เลยทันที แต่หากใช้บริการลูกหาบ หากเดินขึ้นมาถึงก่อนอาจต้องเสียเวลารอลูกหาบ รวมถึงรอรับสัมภาระที่มีอยู่ปริมาณมาก เป็นเวลานานหลายชั่วโมง

    เมื่อจัดการกับทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาออกแรงก้าวเท้าสักที โดยส่วนใหญ่จะเริ่มออกเดินกันตั้งแต่ตอนเช้ามืด เนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย ทำให้เหนื่อยช้ากว่าปกติ เส้นทางมหาเสน่ห์แห่งนี้นักเดินป่าจะได้พบกับจุดพักที่ส่วนใหญ่มีชื่อขึ้นต้นด้วย ?ซำ? ที่จะทำให้จดจำไปจนวันตาย เริ่มแรกกับ ซำแฮก ที่ไม่ต้องบอกที่มาให้วุ่นวาย เพราะนี่คือเสียง "หอบ" ของเหล่านักเดินป่าทั้งหลาย ตามด้วย ซำกกกอก ซำกอซาง ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน ซำแคร่ และถึง ?หลังแป? ในที่สุด เป็นอันได้ถ่ายรูปกับป้าย ?ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง? ระหว่างที่เดินผ่านมาแต่ละซำ จะต้องนั่งพักและซื้อน้ำดื่มเป็นธรรมดา แต่ราคาจะไม่ธรรมดาตามความสูงของซำ (ยิ่งสูงยิ่งแพง)

    เมื่อถึงหลังแปแล้ว เส้นทางท่องเที่ยวบนภูกระดึงจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ บริเวณเส้นทางท่องเที่ยวป่าเปิด และบริเวณเส้นทางป่าปิด โดยเส้นทางท่องเที่ยวป่าเปิด นักท่องเที่ยวสามารถเดินท่องเที่ยวเองได้ มีป้ายบอกตลอดทาง โดยจะแบ่งได้เป็นสองเส้นทาง คือ เส้นทางสายน้ำตก และเส้นทางเลียบหน้าผา สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวป่าปิด จะแบ่งได้เป็น เส้นทางเข้าชมน้ำตกขุนพอง และเส้นทางผาส่องโล ซึ่งจะต้องมีการทำหนังสือขออนุญาตเพื่อเดินในเส้นทางดังกล่าว

    เส้นทางสายน้ำตก จะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ สระแก้ว น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาด น้ำตกธารสวรรค์ และพระพุทธเมตตา ส่วนเส้นทางเลียบหน้าผา จะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ พระแก้ว ผานกแอ่น ผาหมากดูก ผาจำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง และผาหล่มสัก 

    จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าสามารถชมได้ที่ ผานกแอ่น มีระยะทางห่างจากลานกางเต็นท์ 2 กิโลเมตร สำหรับจุดชมพระอาทิตย์ตกสามารถไปชมได้ที่ ผาหมากดูก ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด มีระยะห่างจากลานกางเต็นท์ 2 กิโลเมตร แต่หากต้องการไปชมผายอดนิยม อย่าง ผาหล่มสัก นอกจากจะต้องออกแรงเดินไกลแล้ว อย่าลืมพกไฟฉายไปด้วย เพราะเมื่อถึงเวลาพระอาทิตย์ลาลับแล้ว ภูกระดึงจะมืดตึ๊ดตื๋อทันที

    ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติอันมีลักษณะเด่นเฉพาะเป็นพิเศษ แต่ถึงแม้ว่าจะมีสถานะเป็นอุทยานแห่งชาติแต่ก็ยังประสบปัญหาการลักลอบล่าสัตว์ เก็บหาของป่า และปัญหาไฟป่าซึ่งเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ นอกจากนี้ภูกระดึงยังประสบปัญหาด้านการบริหารและจัดการ ไม่ว่าจะเป็น ไม่มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ขาดทรัพยากรที่จำเป็นในการบริหารจัดการ ทั้งงบประมาณ กำลังเจ้าหน้าที่และมาตรการ รวมถึงปัญหาด้านจิตสำนึกของนักท่องเที่ยว

    เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากการท่องเที่ยว จึงได้กำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปท่องเที่ยวและพักแรมจำนวน 5,000 คนต่อวัน และได้มีการปิดฤดูการท่องเที่ยวในเดือนมิถุนายนถึงกันยายนของทุกปี เพื่อให้สภาพธรรมชาติและสภาพแวดล้อมได้มีการพักฟื้นตัว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่นำบรรจุภัณฑ์ที่ต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนาน ต้องมัดจำบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ตามที่ทางอุทยานฯ กำหนดไว้ แล้วในวันกลับให้นำบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวที่เป็นขยะมารับเงินมัดจำนั้นคืน ถือเป็นการตระหนักในการรักษาสิ่งแวดล้อมร่วมกัน

 
    โครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงได้เกิดขึ้นและเงียบหายไปพักหนึ่ง เนื่องจากการคัดค้านจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะนักอนุรักษ์ แต่ปัจจุบันได้รับการผลักดันโครงการอีกครั้ง ทั้งที่ผลสำรวจของนักท่องเที่ยวเกือบ 70% นั้นไม่เห็นด้วย คาดว่าแนวเส้นทางการก่อสร้างกระเช้าจากจุดเริ่มต้นบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ไปจนถึงบริเวณหลังแป โครงการนี้จะแล้วเสร็จหรือไม่อย่างไร คำถามคือ ?เสน่ห์ของการท่องเที่ยวภูกระดึงที่แท้จริงคืออะไร 

by Traveller Freedom