ตำนานพระแก้วพักผิงริมโขง @ วัดพระแก้วเชียงของ
สถานที่ตั้ง : หมู่ที่ 13 ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
พิกัด : 20.265964,100.406164
วัดพระแก้วเชียงของ ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงของ ระหว่างถนนสายหลักของเชียงของกับแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นพรมแดนไทย-ลาว ทำให้ทางด้านหลังวัด จะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของสายน้ำโขงได้อย่างสวยงาม รวมถึงวิวของฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เมืองห้วยทราย สปป.ลาว อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันทั้งสองมิตรประเทศ ได้ถูกเชื่อมถึงกันด้วยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) เป็นอีกหนึ่งจารึกแห่งความสัมพันธ์ ภายในวัดพระแก้วเชียงของมีพระพุทธรูปเก่าแก่มากมาย โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่สลักจากหินในแม่น้ำโขงที่มีความงดงามมาก
มีตำนานกล่าวถึงวัดพระแก้วเชียงของแห่งนี้ว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดเวไนยสัตว์ในสถานที่ต่างๆ จนข้ามแม่น้ำโขงไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ชื่อว่า “ตำมิละ” นายบ้านตำมิละได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อรับฟังคำสั่งสอน เมื่อพระองค์จะเสด็จกลับ นายบ้านจึงกราบทูลขอพระเกศาเพื่อเป็นที่สักการบูชาแทนพระองค์ พระองค์จึงประทานพระเกศา 2 เส้น นายบ้านเอาพระเกศาใส่ลงในผอบสองผอบ ผอบละ 1 เส้น แล้วได้ขุดหลุมฝั่งดินก่อขึ้นเป็นสถูป 2 องค์ห่างๆ กัน พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า ต่อไปในวันข้างหน้าที่ตรงนี้จะมีผู้คนมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บ้านเมืองจะเจริญรุ่งขึ้นแล้วจะมีผู้มาสร้างเป็นพระธาตุขึ้น กาลเวลาผ่านไปหมู่บ้านตำมิละได้เจริญเป็นเมืองใหญ่ ชื่อว่า " ขรราชนคร " ตามชื่อแม่น้ำขรนที หรือ "แม่น้ำโขง" ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่า “แม่น้ำของ” จนกลายเป็นชื่อเมือง “เชียงของ” ในปัจจุบัน
สำหรับสถานที่ที่นายบ้านตำมิละสร้างสถูปทั้งสองไว้ ได้มีผู้มาสร้างวัดถวายแด่พระสงค์ที่มาปฏิบัติธรรม วัดหนึ่งชื่อว่า "วัดไชยสถาน" ส่วนอีกวัดหนึ่งชื่อว่า "วัดศรีบุญยืน" ต่อมาเจ้าอริยะ เจ้าเมืองเชียงแสน ได้มาปกครองเมืองเชียงของ ได้ทำการบูรณซ่อมแซมวัดทั้งสอง แล้วเปลี่ยนชื่อจาก วัดไชยสถาน มาเป็น “วัดหลวง” ส่วนวัดศรีบุญยืน เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดพระแก้ว” ตามเรื่องราวทางประวัติศาสตร์การเดินทางขององค์พระแก้วมรกตที่ได้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกภายในพระเจดีย์วัดพระแก้วเชียงราย ต่อมาได้ย้ายไปประดิษฐาน ณ นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ราชธานีแห่งอาณาจักรล้านนา จากนั้นในสมัยกษัตริย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มาปกครองเชียงใหม่ชั่วคราว แล้วเสด็จกลับไปปกครองเมืองหลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้าง ได้ทรงนำพระแก้วมรกตกลับไปด้วย ครั้นเสด็จมาถึงเมืองเชียงของ จำเป็นต้องก่อสร้างเรือสำหรับเคลื่อนย้ายองค์พระแก้วมรกต จึงได้พักประดิษฐานไว้ภายในวัดศรีบุญยืน ครั้นเมื่อมีการก่อสร้างเสร็จจึงเคลื่อนย้ายข้ามลำน้ำโขงเพื่อนำไปประดิษฐาน ณ เมืองหลวงพระบางต่อไป
จากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์การเดินทางขององค์พระแก้วมรกต ที่ทำให้ทราบว่าในช่วงเวลาหนึ่ง วัดศรีบุญยืน ในอำเภอเชียงของแห่งนี้ ได้เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต องค์พระศักดิ์สิทธิ์ จึงได้เปลี่ยนชื่อจากวัดศรีบุญยืน เป็นวัดพระแก้วเชียงของ มาจวบจนปัจจุบัน
by Traveller Freedom