กาะท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดกาลแห่งทะเลอ่าวไทยในเขตภาคใต้ ต้องยกให้เกาะสมุยมาเป็นที่หนึ่ง บนเกาะแห่งนี้การันตีด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมมาท่องเที่ยวกันตลอดทั้งปีแบบไม่เลือกฤดูกาล ซึ่งแน่นอนว่านอกจากเกาะสมุยแล้ว บนน่านน้ำทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็ยังมีเกาะท่องเที่ยวยอดนิยมอีกหลายเกาะให้เที่ยวแบบต่อเนื่องได้อีกเช่นกัน
และที่สุดของแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ก็คงต้องเอาชนะคะแนนโหวตแบบลอยลำ นั้นก็คือ “หินตาหินยาย” ปรากฏการณ์แหวกแนวธรรมชาติสร้าง ก่อเกิดเป็นประติมากรรมหินแนวอาร์ทติดเรตอาร์ ซึ่งถ้าหากไม่คิดอะไรมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอมยิ้มปนเสียงหัวเราะซะมากกว่าจะมองว่ามันอุจาดตา
สถานที่ตั้ง : เกาะสมุย หมู่ที่ 3 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พิกัด : 9.452312, 100.039806
หินตาหินยาย เป็นโขดหินขนาดมหึมาตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสมุย ลักษณะของโขดหินมีรูปร่างละม้ายคล้ายอวัยวะเพศชายและเพศหญิง ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นนี้ ทำให้หินตาหินยายกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเกาะสมุยที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องแวะเวียนไปเที่ยวชม เพราะหากใครไม่มาเห็นกับตา จะถือว่าพลาดอย่างรุนแรง นอกจากนี้แล้วในช่วงยามเย็น บริเวณลานหินแห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม มองเห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลาลับหลบหลังเนินหินจนท้องฟ้ากลายเป็นแสงสีส้ม ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนโทนแสงเป็นสีดำในยามค่ำคืน
มีตำนานท้องถิ่นเล่าต่อๆ กันมาถึงหินตาหินยายเอาไว้ว่า นานมาแล้วมีตายายคู่หนึ่ง ชื่อตาเครงและยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางโดยเรือใบเพื่อจะไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้กับลูกชายชื่อคง โดยมีนายท้ายเรือ คือนายปราบ เพื่อนของลูกชาย ครั้งเรื่อแล่นมาถึงบริเวณแหลมละไม เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม สินสอดทองหมั้นที่เตรียมมาจมน้ำหายไปจนหมดสิ้น ส่วนญาติสนิทมิตรสหายที่เดินทางมาร่วมกัน จมน้ำเสียชีวิตกลายเป็นเกาะเล็กเกาะน้อย รายรอบเกาะสมุย หลายๆ คนถูกน้ำพัดไปกลายเป็นหมู่เกาะอ่างทอง นายคงถูกน้ำซัดไปทางหาดเชิงมนเสียชีวิตกลายเป็นเกาะกง ด้านนายปราบนั้นเกาะเรือสำเภาของตัวเองลอยไปทางอ่าวบ้านดอน จนก่อนจะเข้าอ่าวบ้านดอนเรือสำเภาจมลงจนกลาย เกาะนกเภา ส่วนนายปราบนั้นเสียชีวิตกลายเป็นเกาะปราบ อยู่บริเวณอ่านบ้านดอนนั้นเอง คงเหลือรอดชีวิตแค่ตาเครงและยายเรียม ถูกน้ำทะเลพัดเข้าหาดละไม ทั้งตาและยายเสียใจมาก และกลัวว่าตาม่องล่ายจะคิดว่าเป็นคนไม่รักษาคำพูด จึงพากันกลั้นใจกระโดดน้ำตายกลายเป็น “หินตาหินยาย” ดั่งที่เห็นเป็นอยู่จนทุกวันนี้
บทความและภาพ โดย Traveller Freedom