กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นราชธานีที่มั่นคงตั้งแต่เริ่มกำเนิดกรุงรัตนโกสินทร์ สำหรับคนกรุงเทพฯ เองที่ทำงานหนักมาตลอดสัปดาห์มักจะหาเวลาไปพักผ่อนท่องเที่ยวในต่างจังหวัด แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่คนกรุงเทพฯ หรือที่เรียกกันว่า “คนต่างจังหวัด” อันมีความหมายว่า “ประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ปกครองของประเทศไทยที่ไม่ใช่เมืองหลวง” ซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาล นักท่องเที่ยวที่อยู่ในจังหวัดต่างๆ เหล่านี้จะต้องหาโอกาสในวันหยุดมาท่องเที่ยว มาพักผ่อน และมาหาประสบการณ์แปลกใหม่ในเมืองกรุงบ้าง แม้จะเลี่ยงการจราจรบนท้องถนนไม่ได้ แต่ก็มีทางเลือกอื่นเช่น รถไฟฟ้าทั้งลอยฟ้าและใต้ดิน แค่เพียงการสัญจรไปมาในเมืองหลวงก็ถือเป็นประสบการณ์ใหม่แล้ว เพราะนอกจากกรุงเทพมหานครแล้วก็ยังไม่มีจังหวัดไหนในประเทศไทยที่มีรถไฟฟ้าใช้กัน ที่สำคัญคือกรุงเทพมหานครไม่มีช่วง Low-season นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวกันได้ตลอดปี ถ้าให้ดีต้องเก็บให้ครบอย่างน้อย 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร ใน Best 10 Attractions in Bangkok
1. พระบรมมหาราชวัง
พระบรมมหาราชวัง เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในยุคของกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ จนถึง รัชกาลที่ ๕ เมื่อรัชกาลที่ ๑ ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังหลวงขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศ และเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ โดยเริ่มก่อสร้างพร้อมการสร้างพระนครเมื่อปี พ.ศ. 2325 พร้อมกันนั้นพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระอารามในพระราชวังหลวง คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ องค์พระแก้วมรกต จนเกิดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เคียงคู่พระนครและคนไทยชาวพุทธนับแต่บัดนั้น ปัจจุบันพระบรมมหาราชวัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย ที่ได้รับความนิยมทั้งจากประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นับเป็นเป้าหมายอันดับแรกในการมาเยือนเมืองหลวงของประเทศไทย สำหรับพุทธศาสนิกชนชาวไทยจะต้องมีสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะต้องก้าวเท้าเข้ามาภายในพระบรมมหาราชวัง ได้สักการะพระแก้วมรกตที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระแก้ว วัดศักดิ์สิทธิ์ประจำพระนครแห่งนี้
2. สวนสัตว์ดุสิต
สวนสัตว์ดุสิตเขาดินวนา หรือที่นิยมเรียกกันว่า เขาดิน ที่พี่น้องชาวกรุงรู้จักกันเป็นอย่างดี นี่คือสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศไทย เป็นทั้งสวนสัตว์และสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุง แหล่งสูดอากาศบริสุทธิ์ที่แม้ทั้งสี่ทิศจะแวดล้อมไปด้วยมลพิษ แต่สวนสัตว์แห่งนี้อุดมด้วยต้นไม้ใบเขียว จึงมั่นใจได้ว่ามลพิษเหล่านั้นจะได้รับการกลั่นกรองก่อนหายใจเข้าปอดได้เป็นอย่างดี นอกจากสัตว์ป่ามากมายหลายชนิดที่เป็นเสมือนสื่อความรู้ให้กับเหล่าเด็กน้อยและผู้ใหญ่ใจเด็กแล้ว สวนสัตว์แห่งนี้ยังมีกิจกรรมให้ได้เพลิดเพลินกันไป เช่น ปั่นเรือถีบกลางสระน้ำ เหมาะสำหรับครอบครัวและโรแมนติคสำหรับคู่รัก ที่นี่มีบริการรถพ่วงนั่งชมรอบสวนสัตว์แบบเพลินๆ ได้อีกด้วย ที่สวนสัตว์เขาดินแห่งนี้ ไม่ว่าจะวันไหน เด็กๆ ที่ได้มาเที่ยวล้วนยิ้มเริงร่ามีความสุขกับเหล่าฝูงสัตว์หน้าชื่นตาบานกันทุกคน
3. สวนหลวง ร.๙
สวนหลวง ร.๙ เป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร จัดสร้างเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในศุภมงคลสมัยเจริญพระชนมพรรษาครบรอบ 60 พรรษา บริเวณพื้นที่เฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วยหอรัชมงคล และอุทยานมหาราช ภายในหอรัชมงคลจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ และเครื่องใช้ส่วนพระองค์ สิ่งที่เป็นจุดเด่นและเปรียบเสมือนภาพรวมของสวนหลวงแห่งนี้ คือเหล่ามวลดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ที่แข่งขันกันเปล่งสีสันสดดูสวยสะดุดตา ถือเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากที่พันธุ์ไม้เมืองหนาวที่สามารถพบเห็นได้ในพื้นที่อากาศค่อนข้างเย็นตามพื้นที่สูง สามารถอวดโฉมให้เห็นกันอย่างเต็มตาในเมืองกรุง วันงานสำคัญประจำปีของสวนหลวง ร.๙ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม ภายใต้ชื่องาน “พรรณไม้งามอร่ามสวนหลวง ร.๙” โดยมูลนิธิสวนหลวง ร.๙ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
4. นิทรรศรัตนโกสินทร์
นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนินกลาง ทางด้านหน้าของโลหะปราสาท สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้จัดสร้าง ภายในจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและเรื่องราวสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในยุคของกรุงรัตนโกสินทร์ ผ่าน 9 ห้องจัดแสดง เมื่อเดินเที่ยวชมครบทั้ง 9 ห้องแล้ว ผู้เข้าชมจะได้ร่วมบันทึกความในใจต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงบนจอระบบ Multi-Touch เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถเข้าชมได้ทุกเพศทุกวัย ผู้เข้าชมจะได้รับทั้งความรู้ ความสนุกสนานเพลิดเพลิน และประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อนในชีวิต
นิทรรศน์รัตนโกสินทร์
นิทรรศน์รัตนโกสินทร์
5. เอเชียทีค
เอเชียทีค ในชื่อภาษาอังกฤษเต็มยศว่า Asiatique The Riverfront เป็นแหล่งช็อปปิ้งแห่งใหม่ใจกลางกรุง บนทำเล 5 ดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศที่สวยงามที่สุดสามารถสัมผัสได้ยามพลบค่ำ ที่นี่จะประดับประดาด้วยแสงไฟสวยงามตามร้านค้ามากมายเรียงรายหลายล็อค มีการแสดงโชว์หุ่นละครเล็กโจหลุยส์ ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ และของตกแต่งบ้านนานาชนิด ภายในเอเชียทีคแบ่งเป็น 4 ย่านหลักในรูปแบบ Open Mall ได้แก่ ย่านเจริญกรุง ความรุ่งเรืองจะกลับมาอีกครั้งบนถนนสายนี้ ด้วยร้านขายของที่ระลึก สินค้าของตกแต่งกว่า 1,000 ร้านค้า ย่านกลางเมือง ด้วยการผสมผสานทางวัฒนธรรม ทั้งตะวันออกและตะวันตก สู่ร้านอาหารนานาชนิด และลานกิจกรรมกลางแจ้ง ย่านโรงงาน สะท้อนวิถีชีวิตของคนทำงานในอดีต สู่การพบปะสังสรรค์แบบมีสไตล์ กับร้านค้าแฟชั่นสุดฮิปกว่า 500 ร้านค้า ในอาคารโรงเลื่อยเก่าอายุกว่า 100 ปี ที่ได้รับการออกแบบใหม่ในบรรยากาศของคนทันสมัย และย่านริมน้ำ วิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มาพร้อมร้านอาหารนานาชาติ พร้อมทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยาวที่สุดนาทีนี้
6. ภูเขาทอง
ภูเขาทอง ตั้งอยู่ภายในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองมหานาค เป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดสระเกศ” ปัจจุบันชื่อของวัดสระเกศเป็นที่รู้จักจากนักท่องเที่ยวในชื่อของ ภูเขาทอง มากกว่า เพราะนอกจากจะมองเห็นยอดองค์เจดีย์สีทองงดงามอร่ามตามาจากระยะไกลแล้ว บนภูเขาทองยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครอีกด้วย ภายในยอดพระเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พุทธศานิกชนนิยมขึ้นไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
7. สวนรถไฟ
สวนรถไฟ หรือ สวนวชิรเบญจทัศ เปิดเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุง ตั้งอยู่ติดกับสวนจตุจักร แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ยอดนิยมอันดับ 1 ของเมืองกรุง ที่เปิดให้เลือกจับจ่ายซื้อของกันในวันเสาร์-อาทิตย์ สำหรับสวนรถไฟเดิมเคยใช้เป็นสนามกอล์ฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย สิ่งที่ทำให้สวนรถไฟเป็นที่นิยมมีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมากก็คือการปั่นจักรยานกินลมชมวิวรอบสวน สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะ บริเวณด้านหน้าทางเข้าสวนรถไฟ มีบริการให้เช่ารถจักรยานให้เลือกหลายแบบหลายร้าน เส้นทางของการขับขี่จะวนจนครบรอบเป็นการฝึกการจราจรเบื้องต้นสำหรับเด็กๆ ได้อีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ หรือแวะพักถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย หากได้มาในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะได้ยลโฉมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่จะบานสะพรั่งเต็มต้นและร่วงหล่นกระจายเต็มพื้นหญ้า สีชมพูของดอกที่สวยงามโดดเด่นนี้จึงได้รับฉายาว่า “ซากุระแห่งเมืองกรุง”
8. มิวเซียมสยาม
มิวเซียมสยาม หรือพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ อาคารของพิพิธภัณฑ์ดัดแปลงมาจากตึกเก่าของกระทรวงพาณิชย์ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แนวใหม่ ที่สร้างประสบการณ์แตกต่างสำหรับการชมพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้เป็นต้นแบบของแหล่งเรียนรู้ที่มีแนวคิดและความทันสมัยมาประยุกต์ใช้ อีกทั้งยังช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา ผู้สนใจทั่วไปได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และเรื่องราวผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการนำเสนอ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนรู้เข้าชมด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น โดยเนื้อหามุ่งเน้นจุดมุ่งหมายในการแสดงตัวตนของชาติพันธุ์ไทย ย้อนเรื่องราวไปถึงบรรพบุรุษผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชมทั้งเด็กและเยาวชนได้เรียนรู้รากเหง้าของชนชาติไทย โดยเน้นไปที่กลุ่มชนในเขตเมืองหลวงในอดีต ที่เรียกกันว่า บางกอก ซึ่งปัจจุบันก็คือ กรุงเทพมหานคร
9. วัดอรุณ
วัดอรุณ หรือ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร แต่เดิมมีชื่อว่า “วัดแจ้ง” เป็นวัดโบราณสร้างตั้งแต่ในสมัยอยุธยา ชื่อเดิมในสมัยนั้นคือ วัดมะกอก สาเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น ตามเรื่องราวทางประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีได้เสด็จมาถึงหน้าวัดแห่งนี้เวลารุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อว่า วัดแจ้ง สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของวัดอรุณก็คือ “พระปรางค์” ที่มักจะถูกเรียกกันติดปากว่า พระปรางค์วัดอรุณ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่เชิดหน้าชูตาของกรุงเทพมหานครมาแต่อดีต ด้วยความสูง 16 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างความโดดเด่นเป็นสง่าเห็นมาแต่ไกล โดยเฉพาะผู้ที่สัญจรไปมาบนน่านน้ำเจ้าพระยา ทั้งเรือโดยสารและเรือนำเที่ยว ผู้พบเห็นต่างต้องตะลึงในความงดงามที่มีมนต์ขลังเปล่งประกายออกมาให้เห็นเป็นแสงระยิบระยับจากกระจกสีที่ประดับอยู่รอบองค์พระปรางค์ วัดอรุณคืออารามที่ล้ำค่าที่สุดของฝั่งธนบุรี
10. ตลาดน้ำตลิ่งชัน
ตลาดน้ำตลิ่งชัน เป็นตลาดน้ำในเมืองกรุง ที่ยังคงวิถีชีวิตความเป็นชาวสวนริมคลอง มีแม่ค้าพายเรือขายผัก-ผลไม้ และของน่ารับประทานหลากหลาย โดยเฉพาะขนมแบบไทยแท้ที่หาทานได้ยากในยุคปัจจุบัน ผลไม้ตามฤดูกาลที่เจ้าของสวนคัดมาเองกับมือใส่เรือพาย มีร้านอาหารและแผงลอยขายต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ และกล้าพันธุ์ไม้ต่างๆ ตลาดน้ำแห่งนี้มีความร่มรื่นของต้นไม้ให้อากาศที่บริสุทธิ์ ได้หลีกหนี้จากมลพิษที่กระจายอยู่ทั่วไป จุดเด่นของตลาดน้ำตลิ่งชันเป็นตลาดแนวเกษตรผสมผสานวิถีชีวิตริมแม่น้ำลำคลองของชาวบ้านกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ สิ่งที่ปรากฏเห็นแก่นักท่องเที่ยวคือความเรียบง่ายในการดำเนินชีวิตแม้จะอาศัยอยู่ในเขตเมืองหลวง เป็นชุมชนที่ดำรงอยู่ในความพอเพียงที่หาได้ยากแล้วในสังคมชาวกรุง
by Traveller Freedom
on September 2014